เลือกหมอนที่เหมาะสมเพื่อสุขภาพในการนอน
ในการนอนหลับพักผ่อน สิ่งที่เราควรคำนึงมากที่สุดกว่าสิ่งอื่นใดนั่นคือ “หมอน” เครื่องนอนที่เอาไว้หนุนศีรษะในเวลาที่ร่างกายกำลังนอนหลับ ซึ่งมีหลากหลายแบบหลายประเภทมากมายให้เลือก ส่วนใหญ่ก็จะเป็นลักษณะทรงสี่เหลื่ยม แต่วัสดุภายในจะต่างกัน เช่น นุ่น ใยสังเคราะห์ โพลีเอสเตอร์ ขนเป็ด เป็นต้น หมอนเหล่านี้จะถูกผลิตออกมาสำเร็จรูป เราก็แค่นำมาใส่ปลอกหมอนให้เรียบร้อยจากนั้นก็นำไปใช้งานได้เลยค่ะ แล้วคุณรู้หรือไม่ว่าหมอนที่ดีนั้นต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง เรามีคำตอบมาให้ค่ะ
ภาพประกอบจาก classiccleaners.net
หมอนที่ดีจะต้องมีความนุ่นเบาสบายและถูกออกแบบมาให้รองรับศีรษะได้เป็นอย่างดี โดยความสูงโดยประมาณคือ 4 – 6 นิ้ว แต่การนอนหลับที่ดีต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างด้วยกัน จึงจะช่วยให้คุณนอนหลับสบายทั้งคืน ไม่มีอาการปวดคอ ปวดหลัง พร้อมกับเรื่องท่านอนก็สำคัญเช่นเดียวกัน
ก่อนอื่นเรามารู้ประเภทของหมอนกันก่อนดีกว่าค่ะ
หมอนหนุนจาก Dohome
หมอนแบบใช้หนุน โดยทั่วไปจะมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมเหมาะสำหรับใช้หนุนศีรษะและคอ จะมีความสูงประมาณ 4 – 6 นิ้ว และทำจากวัสดุที่นิ่มเพื่อความสบายในการหนุนนอน ส่วนใหญ่จะต้องมีการสวมปลอกหมอนก่อนจึงจะใช้งานได้
หมอนรองเข่า เหมาะสำหรับคนที่มีอาการปวดขาปวดเข่า ใช้รองใต้เข่าเมื่อเวลานอนหงาย หรือใช้ขณะที่นอนตะแคงซึ่งท่านอนแบบนี้จะช่วยบรรเทาอาการปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี
ภาพประกอบจาก comfortzonethailand.com
หมอนรูปตัวยู U เป็นหมอนที่ใช้สำหรับหนุนคอ นิยมใช้เมื่อเวลาเดินทางเพื่อป้องกันไม่ให้ขณะที่เราหลับศีรษะจะเอียงไปตามทิศอื่นๆ เหมาะมากเมื่อต้องเดินทางเป็นระยะเวลานานๆ ไม่ว่าจะอยู่บนรถทัวร์หรือเครื่องบินก็สามารถใช้หมอนแบบนี้ได้
ภาพประกอบจาก xetasale.com
หมอนรูปโดนัท จะมีลักษณะคล้ายๆห่วงยาง จะมีรูตรงกลางเหมาะสำหรับผู้ที่ปวดก้นกบ หรือกระดูกก้นกบหัก ก็สามารถนำหมอนโดนัทมารองเมื่อบรรเทาอาการปวดได้
จากประเภทของหมอนและคุณสมบัติการใช้งานที่เราทราบกันไป ก็น่าจะพอเป็นแนวทางในการเลือกหมอนแต่ละแบบมาใช้งานกันได้อย่างถูกต้องนะคะ แต่หมอนก็ยังแบ่งประเภทของวัสดุภายในที่เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เรารู้สึกถึงความนุ่มสบายที่ต่างกันออกไปด้วยเช่นกัน ซึ่งสามารถแบ่งได้ดังนี้
หมอนหนุนจาก Dohome
หมอนใยสังเคราะห์ เป็นหมอนที่นิยมกันมาก และมีขายตามท้องตลาดส่วนใหญ่ ลักษณะจะนุ่มๆ แต่เมื่อใช้ไปสักระยะก็จะเกิดการยุบตัวได้ง่าย ระยะเวลาในการใช้งานก็จะขึ้นอยู่กับใยสังเคราะห์ที่ถูกบรรจุอยู่ภายใน วิธีการดูแลรักษาควรถอดปลอกหมอนมาทำความสะอาดทุกอาทิตย์ ทำการตบๆ ให้หมอนฟูได้รูปแล้วนำไปผึ่งแดดทุกเดือนเพื่อลดความอับ และที่สำคัญห้ามบิดหมอนเด็ดขาดคะ
หมอนหนุนจาก Dohome
หมอนยางพารา หมอนชนิดนี้ก็เริ่มเข้ามาเป็นที่นิยมบ้าง วิธีการดูแลรักษาคือนำไปพึ่งลมพึ่งแดด หากมีรอยเปื้อนให้นำผ้าชุบน้ำสะอาดเช็ดแล้วพึ่งให้แห้ง
หมอนหนุนจาก Dohome
หมอนขนเป็ด หมอนขนห่าน เป็นหมอนที่มีความนุ่มมาก บางคนเรียกว่าหมอนเพื่อสุขภาพแต่ข้อเสียคือมีราคาค่อนข้างสูง วิธีการดูแลรักษา ควรหมั่นนำมาพึ่งแดดเป็นประจำ พึ่งครั้งละ 2 – 3 ชั่วโมง และตบๆ ให้หมอนขึ้นฟู หากจะซักก็ควรซักแห้งและนำไปอบก็จะช่วยรักษาและยืดอายุของหมอนได้เป็นอย่างดี
แถมเคล็ดลับการเลือกหมอนให้อีกนิดสำหรับคนที่ชอบนอนในลักษณะท่าทางแต่ละแบบไม่ว่าจะนอนหงาย นอนตะแคง หรือนอนคว่ำ ก็สำคัญต่อการเลือกหมอนเช่นเดียวกันค่ะ… เราลองมาดูกันสิว่าหมอนแบบไหนจะเหมาะกับการนอนแบบใดบ้าง?
หากคุณเป็นคนชอบนอนหงาย หมอนที่ดีควรจะต้องมีลักษณะที่นุ่นและไม่สูงมากจนเกินไป เพื่อเป็นการรองรับส่วนเว้าของกระดูกต้นคอได้เป็นอย่างดี เมื่อเวลาที่เรากำลังนอนหลับหน้าเราจะต้องไม่เงยขึ้นไปทางด้านหลัง
ภาพประกอบจาก tvbedsonline.co.uk
หากคุณเป็นคนชอบนอนตะแคง หมอนที่เหมาะกับท่านอนนี้ก็ต้องเป็นหมอนที่นิ่มและไม่สูงเช่นเดียวกัน หมอนจะต้องสูงแค่ระดับไหล่มายังศีรษะถือว่าเป็นระดับที่พอดี และควรจะมีหมอนอีกใบที่หนุนระหว่างขา รวมไปถึงตรงส่วนข้อมือก็อาจจะหาผ้าม้วนๆ เอามาวางไว้สำหรับเพื่อวางข้อมือ อาจจะดูยุ่งยากไปสักหน่อยนะคะ แต่เพื่อสุขภาพการนอนที่ดี ก็ลองทำดูไม่เสียหายค่ะ
ภาพประกอบจาก fitlife.tv
หากคุณชอบนอนคว่ำ แนะนำว่าควรเป็นหมอนที่ค่อนข้างแบนสักหน่อยหรืออาจจะมีหมอนใบเล็กๆมาหนุนตรงช่วงท้องเพื่อรองรับน้ำหนักตัวให้ได้สรีระที่ถูกต้องก็จะดีค่ะ
หมอนหนุนจาก Dohome
เรื่องราวของหมอนที่เรานำมาฝากก็เป็นอีกเรื่องที่ควรจะใส่ใจเหมือนกันนะคะ เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว แต่สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้น การเลือกปลอกหมอนก็เป็นสิ่งที่ต้องใส่ใจเช่นเดียวกัน ในเมื่อเราเลือกหมอนที่ดีเพื่อสุขภาพที่ดีกันแล้วก็อย่าลืมเลือกปลอกหมอนที่ทำจากผ้าเนื้อดีนุ่มสบายเพื่อสุขภาพที่ดีคูณสอง ถ้าใครยังไม่รู้จะเลือกแบบไหนลองแวะเข้าไปดูที่ www.dohome.co.th ได้ค่ะเค้ามีให้เลือกเยอะเลยทั้งหมอนและปลอกหมอน อย่าลืมแวะเข้าไปดูกันนะคะ
บทความโดย www.dohome.co.th